สมุนไพรแก้มะเร็ง สมุนไพรรักษามะเร็ง(สมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง)

1.ข้าวเย็นเหนือ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Smilax corbularia Kunth

2.ข้าวเย็นใต้
ชื่อวิทยาศาสตร์ Smilax glabra Roxb.

ทั้งข้าวเย็นเหนือและข้าวเย็นใต้เป็นสมุนไพรที่หมอแผนโบราณนิยมนำมาเข้าตำรับยารักษาโรคมะเร็ง น้ำเหลืองเสีย เข้าข้อ ออกดอก
หัว - แก้เส้นพิการ น้ำเหลืองเสีย กามโรค ฝีเปื่อย พุพอง แก้มะเร็ง
ต้น - แก้อัมพาตแก้ประดง คุดทะราด น้ำเหลืองเสีย แก้เส้นเอ็นพิการ แก้กามโรค เข้าข้อ ออกดอก
ฝีแผลเน่าเปื่อยพุพอง เม็ดผื่นคัน ดับพิษในกระดูก แก้ปัสสาวะ

3.หญ้าปักกิ่ง,หญ้าเทวดา Angel Grass เหล่งจือเช่า
ชื่อวิทยาศาสตร์ Murdannia loriformis (Hassk.) Rolla Rao et Kammathy
ทั้งต้นหรือส่วนเหนือดิน - โดยต้นที่นำมาใช้เป็นยา ควรมีอายุประมาณ 3-4 เดือน (ตั้งแต่เริ่มออกดอก) ในประเทศไทยประมาณ 15 ปีที่แล้ว
ได้มีการใช้น้ำคั้นสดจากต้นปักกิ่ง เพื่อรักษาและบรรเทาอาการจากโรคมะเร็ง บางรายใช้ร่วมกับการรักษาแบบแผนปัจจุบันเพื่อลดผลข้างเคียง
     มหาวิทยาลัยมหิดลได้ให้ความสำคัญและมีรายงานการวิจัยเกี่ยวกับหญ้าปักกิ่งโดยจัดให้การศึกษาลักษณะ
ทางพฤกษศาสตร์ของหญ้าปักกิ่ง
มีการจัดทำมาตรฐานของหญ้าปักกิ่ง รวมไปถึงการศึกษาในการทดสอบความเป็นพิษผลการวิจัยพบว่าใบของหญ้าปักกิ่งเมื่อสัมผัส
จะทำให้เกิดอาการแพ้ มีอาการผื่นคัน
     ภายในใบหญ้ามีผลึกแคลเซียมออกซาเลทรูปเข้มจำนวนมากและมีเกลืออนินทรีย์ของโซเดียม
และโปแทสเซียมอยู่ประมาณ 0.1%
น้ำคั้นจากหญ้าปักกิ่ง ไม่ทำให้เกิดความผิดปกติในด้านการเจริญเติบโต เคมีของเลือด และ
พยาธิสภาพของอวัยวะสำคัญในหนูขาว และผลของการทดสอบความเป็นพิษพบว่า
หญ้าปักกิ่งเป็นสมุนไพรที่ค่อนข้างปลอดภัยเพียงพอในขนาดรักษาติดต่อกันนาน3 เดือน
ในด้านการรักษาโรคมะเร็งของหญ้าปักกิ่งได้มีการวิจัยเบื้องต้น โดยแยกสารที่แสดงคุณสมบัติต้านมะเร็ง
พบว่าหญ้าปักกิ่งประกอบด้วยสาร
กลุ่มต่างๆได้แก่ คาร์โบไฮเดรต กรดอะมิโน กลัยโคไซด์ ฟลาโวนอยด์ และอะกลัยโคน
ผลการทดสอบพบว่าสารในกลุ่มอะกลัยโคนและกลุ่มกลัยโคไซด์ แสดงฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง(direct toxicity)
ต่อเซลล์มะเร็งเต้านม(ATCC HTB 20) และเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ (SW620) ได้
ยังมีรายงานฤทธิ์ในการต้านการกลายพันธุ์ของหญ้าปักกิ่ง
ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าหญ้าปักกิ่งอาจป้องการเกิดมะเร็งได้อีกด้วย

4.ทองพันชั่ง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Rhinacanthus nasutus  (L.) Kurz
ทั้งต้น - รักษาโรคผิวหนัง แก้น้ำเหลืองเสีย แก้กลากเกลื้อน ผื่นคัน รักษามะเร็ง คุดทะราด
ขับพยาธิตามผิวหนัง ตามบาดแผล แก้ไส้เลื่อน ไส้ลาม แก้ปัสสาวะผิดปกติ
ต้น - บำรุงร่างกาย แก้โรค 108 ประการ รักษาโรคผมร่วง
ใบ - ดับพิษไข้ แก้กลากเกลื้อน ผื่นคัน แก้โรคไขข้ออักเสบ รักษาโรคผิวหนัง รักษาโรคมะเร็ง
รักษาโรคความดันโลหิตสูง แก้ผมร่วง บำรุงร่างกาย แก้โรค 108 ประการ แก้ปวดฝี แก้พิษงู ถอนพิษ
แก้อักเสบ แก้โรคมุตกิต รักษาโรคพยาธิวงแหวนตามผิวหนัง
ราก - แก้กลากเกลื้อน รักษาโรคมะเร็ง รักษาโรคผิวหนัง ดับพิษไข้ แก้พิษงู แก้พยาธิวงแหวนตาผิวหนัง

นอกจากนี้ยังใช้ผสมในตำรับยาร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ รักษาโรคต่อไปนี้คือ
ราก- รักษามะเร็งเนื้องอก รักษามะเร็งปอด กระเพาะลำไส้ มะเร็งตามร่างกาย ทำให้ผมดกดำ แก้ไอเป็นเลือด อาเจียนเป็นเลือด แก้ริดสีดวงทวาร
ดับพิษไข้ รักษาโรคผิวหนัง แก้กระษัย แก้ผมหงอก ผมร่วง รักษาโรคตับพิการ รักษาโรครูมาติซึม รักษาโรคไขข้อพิการ แก้ลมเข้าข้อ ทำให้
ปวดบวมต่างๆ ขับปัสสาวะ แก้แมงเคียนกินรากผม แก้เหา แก้รังแค
ทั้งต้น - รักษาโรคผิวหนัง คุดทะราด แก้เม็ดผื่นคัน
ต้น - รักษามะเร็งเนื้องอก รักษามะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะ มะเร็งตามร่างกาย มะเร็งลำไส้ แก้แมงเคียนกินรากผม แก้เหา แก้รังแค รักษาโรคผิวหนัง
ใบ - แก้แมงเคียนกินรากผม แก้เหา แก้รังแค รักษาโรคผิวหนัง แก้ไข้ แก้ปวดหัวตัวร้อน แก้มะเร็งไช แก้หิดมะตอย รักษาโรคมะเร็ง รักษาวัณโรค แก้ใจระส่ำระสาย แก้คลุ้มคลั่ง แก้สารพัดพิษ

ในตำราบางเล่ม ยังได้กล่าวถึงสรรพคุณทองพันชั่ง โดยไม่ได้ระบุว่าใช้ส่วนใดของพืช หรือส่วนใดในตำรายาร่วมกับสมุนไพรอื่นๆ
ในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ ดังต่อไปนี้คือ
- รักษาโรคความดันโลหิตสูง รักษาโรคมะเร็ง แก้มุตกิตระดูขาว เป็นยาอายุวัฒนะ แก้ผมร่วง รักษาโรคนิ่ว
- แก้เคล็ดขัดยอกชายโครง มือเคล็ด คอเคล็ด แก้มะเร็งในกระเพาะ แก้ฝีประคำร้อย แก้มะเร็งในคอ แก้มะเร็งในปาก แก้ไข้เหนือ แก้จุกเสียด เป็นยาหยอดตา แก้ไอเป็นเลือด แก้ช้ำใน แก้นิ่ว แก้โรคผิวหนัง แก้ลมสาร แก้มะเร็งในปอด แก้มะเร็งภายในและภายนอก

วิธีและปริมาณที่ใช้ :
-ใช้รับประทานเป็นยาภายใน รักษาโรคมะเร็ง และวัณโรคระยะเริ่มแรก
1. ใช้ทั้งต้น สด จำนวน 30 กรัม ต้มกับน้ำ จำนวนท่วมใบยา ต้มดื่มต่างน้ำ
2. ใช้ก้านและใบสด 30 กรัม (แห้ง 10-15 กรัม) ผสมน้ำตาลกรวดต้มน้ำดื่ม รักษาโรคปอดระยะเริ่มแรก
-ใช้เป็นยาภายนอก แก้โรคผิวหนัง กลากเกลื้อนและผื่นคันอื่นๆ
1. ใช้ใบสด 5-8 ใบ ตำให้ละเอียด เติมเหล้าโรงเล็กน้อย ทาบริเวณที่เป็นเกลื้อน
หรือเอารากสด 2-3 ราก มาป่น แช่เหล้าไว้ 1 สัปดาห์ กรองเอาน้ำยาที่แช่มาทา ทาบ่อยๆ จนกว่าจะหาย
2. ใช้ใบสดตำผสมน้ำมันดิบ หรือ แอลกอฮอล์ 75% ทาบริเวณที่เป็น

สารเคมี : Rhinacathin, Oxymethylanthra quinone, Quinone, Rutin (quercetin - 3 - rutinoside)

5.เหงือกปลาหมอ (พืชสมุนไพร)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Acanthus ebracteatus Vahl (ดอกขาว), A. illicifolius Linn. (ดอกม่วง)
ต้น - แก้แผลพุพอง น้ำเหลืองเสีย เป็นฝีบ่อยๆ
ใบ - เป็นยาประคบแก้ไขข้ออักเสบ แก้ปวดต่างๆ รักษาโรคผิวหนัง ขับน้ำเหลืองเสีย
ราก - ขับเสมหะ บำรุงประสาท แก้ไอ แก้หืด รักษามุตกิดระดูขาว
เมล็ด - ปิดพอกฝี ต้มดื่มแก้ไอ ขับพยาธิ ขับน้ำเหลืองเสีย
เมล็ดและรากของต้นเหงือกปลาหมอผสมกับสมุนไพรอื่นใช้พอกแผลที่ถูกงูกัดหรือแผลอักเสบ

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
-สารสกัดด้วยน้ำร้อนจากเหงือกปลาหมอแห้งทั้งต้น มีฤทธิ์ต้านมะเร็งในหนูถีบจักร เมื่อให้ยาทางปาก (Jongsuwat, 1981)
-สารสกัดด้วย methanol จากต้นและใบเหงือกปลาหมอ ไม่มีผลยับยั้ง enzyme HIV-1 reverse transcriptase (Tan et al, 1991)
-สารสกัดด้วย 90 % ethanol จากเหงือกปลาหมอ ไม่มีฤทธิ์แก้ปวดในหนูถีบจักร (Bhakuni, 1992) ไม่มีฤทธิ์เป็น antibacterials ในเชื้อต่อไปนี้
E. coli,Klebsiella pneumoniae,Pseudomonas aeruginosa,Staphylococcus aureus,Streptococcus faecalis
-สารสกัดด้วยน้ำร้อนจากต้นและใบเหงือกปลาหมอ ไม่พบความเป็นพิษต่อหนูถีบจักร ทั้งชนิดพิษแบบเฉียบพลัน และพิษระยะยาว
- มีรายงานว่า เหงือกปลาหมอมีฤทธิ์กระต้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งสอดคล้องกับการใช้เหงือกปลาหมอในการแพทย์แผนไทยที่ใช้เหงือกปลาหมอรักษา
โรคผิวหนังผื่นคัน ภูมิแพ้ และเป็นยาอายุวัฒนะ

วิธีและปริมาณที่ใช้ : ใช้ต้นและใบสด 3-4 กำมือ ล้างให้สะอาด
นำมาสับ ต้มน้ำดื่มและอาบแก้ผื่นคัน ลมพิษ โรคผิวหนังได้ดี

6.แพงพวยฝรั่ง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Catharanthus roseus (Linn.) Don
ทั้งต้น - แก้เบาหวาน ลดความดัน ขับปัสสาวะ แก้บวม
ถอนพิษสำแดง ถอนพิษต่างๆ แก้ไอแห้งๆ เกิดจากร้อน
แก้อาการตัวเหลืองอันเกิดจากพิษสุรา
แก้โรคหนองใน หัด ผื่นคันและแผลอักเสบอื่นๆ รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว
ต้น - ใช้ทั้งต้นสกัดได้แอลคาลอยด์ Vincristine และ Vinblastine
ซึ่งนำมาทำให้บริสุทธิ์ และใช้ในรูปยาฉีด รักษามะเร็งบางชนิด เช่น
มะเร็งเม็ดเลือดขาว
ใบ - บำรุงหัวใจ ช่วยย่อย
ราก - แก้บิด ขับพยาธิ ใช้ห้ามเลือด รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว

วิธีและปริมาณที่ใช้ :
ทั้งต้นแห้ง 15-30 กรัม ต้มน้ำดื่ม หรือใช้ต้นสดคั้นเอาน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ตำพอกหรือสุมไฟให้เป็นถ่านผสมพอก

7.เห็ดหลินจือ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Garnoderma lucidum (Fr.) Karst.
หมวกเห็ด (Fruiting body),สปอร์ (Spore) - เห็ดหลินจือเป็นสมุนไพรที่ได้รับความสนใจจากนักวิจัยทั่วโลก ในเรื่องสมุนไพรรักษามะเร็ง
ซึ่งมีรายงานการวิจัยมากกว่า 100 เรื่องที่ได้รับการยอมรับเป็นสากล โดยเปิดเผยผลการค้นพบสารที่ออกฤทธิ์ต้านมะเร็งในเห็ดหลินจือ
หลายชนิด เช่น สาร เบต้าดีกลูแคน (Beta-D-Glucan ) และสารกลุ่มจำพวก โพลิแซ็กคาไรด์ ( Polysaccharides ) หลายชนิด
โดยสารทั้ง 2 นี้ จะทำหน้าที่กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิด บี-เซลล์ ( B-cells ) และที-เซลล์ ( T-cell)
ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของสารอิมมูโนโกลบูลิน (Immunoglobulin) และ สารอินเตอร์ลิวคิน (Interleukins) ในร่างกายอย่างชัดเจน
ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกัน โดยจะทำหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมเช่น เซลล์มะเร็ง หรือสารก่อมะเร็ง
และเซลล์ที่ผิดปกติ รวมถึงต่อต้านเชื้อโรคและไวรัส

8.กัญชา
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cannabis sativa L.
สารหลัก คือ สาร THC CBD ซึ่งพบได้ในกัญชา
สามารถยับยั้งและกำจัดเซลล์มะเร็งได้
สาร THC อาจจะทำให้มีอาการมึนเมาหรืออาการทางประสาทได้
ส่วนสาร CBD นั้นจะไม่ทำให้มีอาการเหล่านี้เลย
เยื่อหุ้มเซลล์มะเร็ง จะมีตัวรับ หรือ receptor CB1 และCB2
ซึ่งเป็นตัวรับสำหรับสาร THC และCBD ที่จะเข้าไปในเซลล์มะเร็งได้
เมื่อเข้าไปในเซลล์มะเร็งแล้ว สาร 2 ชนิดนี้ จะไปกระตุ้นไขมันสฟิ้งโกลิปิดส์
(Sphingolipids) ซึ่งควบคุมดูแล การมีชีวิตและการตายของเซลล์มะเร็ง
และของทุกๆเซลล์ โดยการผลิต เซราไมด์ (Ceramide) ออกมาเป็นจำนวนมาก
ซึ่งจะเป็นตัวส่งสัญญาณไปก่อกวนนิวเคลียส ของเซลล์มะเร็ง
ทำให้เกิดมีอาการเครียดและสับสน จึงหยุดกระบวนการผลิตโปรตีน
นอกจากนั้นแล้วยังจะส่งสัญญาณไป ยับยั้งการทำงานของไลโซโซม
ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการจัดหา สารอาหาร สำหรับการทำงานของเซลล์มะเร็ง

นอกจากนี้ยังมีสาร CBN ซึ่งพบว่าช่วยในเรื่องมะเร็งปอด
และสารกลุ่ม Terpenes บางชนิดก็มีฤทธิ์ช่วนในเรื่องมะเร็ง