ยาแก้ไข้ ตรา เอ (กล่องสีเขียว)
เลขทะเบียนยาที่ G 611/48
ได้รับทะเบียนยาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548
บรรจุกล่องละ 1 แผง แผงละ 10 เม็ด
เม็ดละ 400 มิลลิกรัม
Bar code : 8857200207423
ราคากล่องละ 92 บาทยาเม็ดทุกตำรับ ผ่านการพาสเจอร์ไรส์
และ เครื่องตรวจจับโลหะ
(Pasteurization & Metal Detector Approved)ไม่มีผลเสียต่อ ตับ ไต
สรรพคุณ แก้ไข้ แก้ร้อนใน เช่น แผลร้อนในในปาก(แซชือ)
แผลในปากจากการใส่เครื่องมือจัดฟัน ร้อนในที่ลิ้น ลิ้นแตก
เจ็บคอ ต่อมทอนซิลอักเสบ เหงือกบวม(ผู่คีเปา)
เพดานปากเป็นแผล ตกหมอน ครั่นเนื้อตัว กระทั่งเป็นไข้
ลดน้ำมูก แก้ปอดอักเสบ(ปอดบวม) แก้ไข้หวัดแบบร้อนใน
แก้ไข้หวัดลงคอ รวมถึง ไข้หวัดใหญ่
(ทำให้มีภูมิต้านทานสามารถกำจัดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้)Upper respiratory infection
15/1/2560 จากประสบการ์ที่ใช้กับลูก อายุ 4 ขวบ 4 เดือน ซึ่งเป็นโรคมือ เท้า ปาก
พบว่าช่วยให้แผลที่ลิ้น และแผลในปากหายได้เร็วมาก เพียงแค่ 1-2 วัน
ให้รับประทานมื้อละ 3 เม็ด วันละ 2-3 ครั้ง
ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
โดยนำมาบดแล้วบรรจุในแคปซูลเบอร์2 จะได้ประมาณ 5 เม็ดแคปซูล
ร่วมกับการใช้ยาชาหยอดปากจากประสบการณ์ของตัวหมอเอง เป็นแผลร้อนในจากการจัดฟัน
รับประทานมื้อละ 3-4 เม็ด วันละ 3 ครั้ง 2-3 วัน อาการก็ดีขึ้นต่อมทอนซิลอักเสบ เจ็บคอเป็นไข้ เหงือกบวม
รับประทานมื้อละ 4 เม็ด วันละ 4-5 ครั้ง 3 วัน อาการก็ดีขึ้น19/3/2563 พบว่าช่วยรักษาอาการ COVID-19
รับประทาน มื้อละ 3 เม็ด วันละ 3-4 มื้อ
ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
โดยแก้ไข้ แก้เจ็บคอ แก้เสมหะ ลดน้ำมูก ลดอาการปอดอักเสบ(ปอดบวม)ถ้าไม่เป็นไข้ แต่มีอาการร้อนในดังกล่าว
ก็รับประทาน ยาแก้ไข้ ตรา เอ (กล่องสีเขียว)ได้ผลตอบรับที่ดีของคนไข้
คือกำลังใจ ของหมอ
แผลร้อนในในปาก Aphthous ulcer แซชือ
แผลร้อนในในปากนั้นต่างกับแผลเริมที่ปาก โดยแผลเริมเกิดจากเชื้อไวรัส
Herpes simplex virus 1 (HSV-1) (รักษาแผลเริมได้ด้วยการใช้ใบพญายอเพสลาด หมายถึง
ใบที่ไม่อ่อนหรือไม่แก่ มาคั้นน้ำแล้วทาแผลเริมวันละ 4-5 ครั้ง)ส่วนแผลร้อนในนั้นเกิดจากภาวะการพร่อง(ซึ่งจะกล่าวต่อไป)
โดยแผลร้อนในเป็นแผลที่พบมากบริเวณริมฝีปากด้านใน หรือกระพุ้งแก้ม หรือเหงือก
บางรายเกิดแผลร้อนในที่ลิ้น แผลร้อนในจะเริ่มจากตุ่มเล็กๆ แล้วกลายเป็นวงและ
มีขนาดใหญ่ขึ้น ตรงกลางจะมีเยื่อสีขาวบางๆ ขอบจะบวมแดง และมีอาการปวด
มีตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงเส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งนิ้ว บางรายเกิดขึ้นตำแหน่งเดียว
บางรายเกิดหลายตำแหน่งพร้อมๆกัน บางรายแผลเก่ายังไม่ทันหายแผลใหม่ก็มาเกิด
จะเจ็บมาก เมื่ออาหารหรือลิ้นไปโดนถูกคนจีนแต้จิ๋ว เรียกว่า "แซชือ" แต่ถ้ามีอาการเหงือกบวมแบบปูดที่ด้านข้าง เรียก "ผู่คีเปา"
หรือบางครั้งตุ่มเล็กจะไม่กลายเป็นแผลร้อนในแบบเปิด แต่จะปูดเป็นตุ่มใหญ่ขึ้นมาบริเวณ
ใต้ริมฝีปากด้านใน หรือใต้ลิ้น ทำให้ตกใจ ท่านที่ไม่รู้ว่าเกิดจากร้อนใน ก็จะไปพบแพทย์
เพื่อผ่าตัดออกสาเหตุของแผลร้อนในในปาก แท้จริงแล้ว แผลร้อนในในปาก ไม่ได้เกิดจากเชื้อใดๆ
แต่แผลร้อนในในปากหรืออาการร้อนใน เกิดจากคนที่มีภาวะอิน(ยิน,หยิน)พร่อง
จากกรรมพันธุ์หรือเป็นพื้นฐานของร่างกาย ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แล้วมีพฤติกรรมที่ทำให้ร้อนใน เช่น นอนดึก รับประทานอาหารเผ็ด
ของทอด-อบ-กรอบ ผลไม้บางชนิดที่มีฤทธิ์ร้อน
ความไม่สมดุลระหว่างอิน-หยาง จึงทำให้ร่างกายแสดงออกมาเป็นอาการร้อนใน
เช่น เกิดแผลร้อนใน บางรายอาจมีอาการร้อนในอื่นๆ เช่น เจ็บคอ ลิ้นแตกหรือเป็นแผลร้อนในที่ลิ้น
เหงือกบวม มีเสมหะ ไอ เป็นไข้ ร่วมด้วย หรือหายจากเป็นไข้ แล้วมีแผลร้อนในขึ้นมา หรือ
บางท่านอาจไม่เป็นไข้ แต่จะมีแผลร้อนในในปากบ่อยบางท่านอาจคิดว่า แผลร้อนในในปาก เกิดจากการกัดถูกกระพุ้งแก้มหรือลิ้นของตัวเอง
แต่ความจริงแล้วเกิดจากร้อนใน เพราะเมื่อร้อนใน กระพุ้งแก้มก็หนาตัวขึ้นหรือ
ลิ้นจะมีการพองตัวมากขึ้น จึงไปกัดถูก แล้วกลายเป็นแผลร้อนในขึ้นมา
บางท่านจัดฟันหรือแปรงฟัน แล้วเครื่องมือจัดฟันหรือแปรงขูดถูก
ถ้าหากว่าไม่มีอาการร้อนใน เพียงแค่ 1-2 วัน แผลก็จะหายเป็นปกติ
แต่ถ้าร่างกายร้อนใน แผลนั้นก็จะกลายเป็นแผลร้อนในในปาก และ
แผลร้อนในนั้นยังอาจขยายใหญ่ขึ้นอีกร้อนในมีหลากหลายอาการแล้วแต่ว่าจะเกิดกับอวัยวะส่วนไหน เช่น
เส้นที่คอตึง ตกหมอน มีขี้ตา ตาแฉะ ระคายเคืองตา บางครั้งน้ำตาไหลเอง
หรือมีเม็ดที่ตาคล้ายตากุ้งยิง มีเสมหะ ไอ เจ็บคอ ต่อมทอนซิลอักเสบ(Tonsillitis)
แผลร้อนในในปาก เหงือกบวม ลิ้นแตก ร้อนในที่ลิ้น ในปากมีตุ่มปูด
ที่เพดานปากเป็นแผล ปัสสาวะกะปริบกะปรอย
ท้องผูก อุจจาระแข็ง-ดำ (ระบบทางเดินอาหารไม่มีเลือดออก)
แต่บางครั้งก็ถ่ายเหลวและมีลม บางทีก็ร้อนในในหลายส่วนพร้อมกัน
ทำให้มีหลายอาการพร้อมกันรวมถึงเป็นต้นเหตุของอาการไข้หวัด เพราะเมื่อร้อนใน ภูมิต้านทานก็ลดลง
อาการเหล่านี้แต่ละคนจะไว(Sensitive)ไม่เท่ากัน เนื่องจากดุลยธาตุ(อิน-หยาง)
ของแต่ละคนไม่เท่ากัน
การรักษาอาการร้อนใน แผลร้อนในในปาก
- ห้ามรับประทานยาบำรุง เช่น เขากวางอ่อน โสมคน(หยิ่งเซียม) ยาสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน เช่น
พริกไทย ดีปลี อบเชย(ชินนามอน)- งดอาหารที่ทอดน้ำมัน อาหารรสเผ็ด อาหารหวานจัด หรือขนมบางอย่างเช่น คุ้กกี้ ขนมกรอบๆ
หรือเบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผลไม้บางชนิด เช่น ลำไย ทุเรียน เงาะ ขนุน ลิ้นจี่ ละมุด องุ่น มะม่วงสุก รวมถึงข้าวเหนียว
(แต่ละคนไวต่ออาหารและชนิดของอาหารไม่เหมือนกัน)- สำหรับเด็กที่ดื่มนมชง ให้สังเกตนมชงด้วย เพราะนมแต่ละยี่ห้อ มีสูตรที่ไม่เหมือนกัน
บางสูตรทำให้ร้อนใน- นอนหลับให้เต็มที่ ดื่มน้ำให้มากขึ้นในกรณีที่ดื่มน้ำน้อย
- รักษาอาการร้อนในหรือแผลร้อนในในปาก โดยการรับประทานยาแก้ไข้ ตรา เอ
ซึ่งแก้อาการร้อนในได้ดีมาก
ถ้ารู้สึกว่าแผลร้อนในกำลังจะเกิดขึ้น หรือเริ่มมีอาการร้อนใน ให้รีบรับประทานยา
จะทำให้แผลร้อนในไม่เกิดขึ้นมา หรืออาการร้อนในหายได้เร็ว- การรับประทานยาแก้ไข้ ตรา เอ รับประทานเมื่อมีอาการร้อนใน เมื่อหายร้อนในก็หยุดรับประทาน สลับกันไปเรื่อยๆ ในระยะยาว จะทำให้อาการร้อนในเป็นน้อยลงหรือเป็นขึ้นมายากขึ้น
เพราะในยาแก้ไข้ ตรา เอ มีตัวยาที่เสริมอิน ทำให้ร่างกายผู้ที่พร่องอินได้สมดุลไข้หวัดแบบร้อนหรืออาการหวัดแบบร้อนใน หมายถึง
อาการหวัดที่เริ่มต้นด้วยการร้อนใน เช่น เจ็บคอ ครั่นเนื้อครั่นตัว เป็นไข้ ริมฝีปากแดง ลิ้นแดง
เป็นหวัด น้ำมูกไหล มีเสมหะข้นขาวหรือเขียวปนเหลือง ปวดหัว ปัสสาวะมีสีเข้มกว่าปกติ ปวดหัว
ถ้าหนักอาจปวดเมื่อยเนื้อตัวตกหมอน
เมื่อเกิดอาการตกหมอน ให้รับประทานยาแก้ไข้ ตรา เอ และ
ยากษัยเส้น ตรา เอ โดยรับประทานชนิดใดก่อนก็ได้
อีกสักประมาณ 1 ชม. ก็รับประทานอีกชนิดตามคำแนะนำสำหรับการใช้ยาแก้ไข้ ตรา เอ (กล่องสีเขียว)
-งดอาหารที่ทำให้ร้อนในดังที่กล่าวมา
-ควรพักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานยาแต่เนิ่นๆ จะรักษาอาการร้อนใน หรือ
แผลร้อนใน ให้หายได้เร็ว
-ผู้ใหญ่อายุ 12 ปีขึ้นไป รับประทานครั้งละ 2-4 เม็ด
ถ้าเป็นไข้หนัก สามารถรับประทานครั้งละ 4 เม็ด ทุกๆ 3 ชั่วโมง
ถ้ามีแผลร้อนในมาก หรือมีอาการร้อนในหนัก รับประทานครั้งละ 4 เม็ด วันละ 3-4 ครั้ง
ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
อาจใช้เวลารักษานานกว่าปกติ(สามารถรับประทานติดต่อกันได้ ไม่อันตราย)
-เด็กอายุ 4-11 ขวบ รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด
ถ้ากลืนยาไม่ได้ให้นำเม็ดยามาบดผสมน้ำผึ้งน้ำมะนาวแล้วกลืนและดื่มน้ำตาม
วันละ 3-4 ครั้ง ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้
-ยาแก้ไข้ ตรา เอ ไม่ทำให้ง่วงนอน และไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร(ไม่กัดกระเพาะอาหาร)ถ้าเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ น้ำหนักไม่ถึง 60 กิโลกรัม
รับประทานครั้งละ 3 เม็ด วันละ 3 ครั้ง ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้น้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม ขึ้นไป
รับประทานครั้งละ 4 เม็ด วันละ 4 ครั้ง ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ และก่อนนอนดังนั้นยาแก้ไข้ ตรา เอ จึงเหมาะกับอาการดังต่อไปนี้
-แผลร้อนในในปาก กระพุ้งแก้ม
-ลิ้นแตก ร้อนในที่ลิ้น
-เหงือกบวม
-มีตุ่มปูดในปาก
-เจ็บคอ ต่อมทอนซิลอักเสบ
-เสมหะเขียว เหลือง
-ตากุ้งยิง
-ครั่นเนื้อครั่นตัว กระทั่งเป็นไข้
-ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัดใหญ่ได้ยาเม็ดตอกเม็ดทุกตำรับ บรรจุในแผงอลูมิเนียมฟอยล์ (Strip pack)
ข้อดี คือ
- ป้องกันความชื้นและเชื้อจุลินทรีย์เข้าสู่เม็ดยา
โดยทั่วไปในบรรยากาศจะมีทั้งความชื้นและเชื้อจุลินทรีย์
หากเป็นยาที่ใส่ขวด เมื่อเปิดขวดแล้ว ยาจะมีการปนเปื้อนของเชื้อ
ความชื้นในบรรยากาศ ทำให้เชื้อจุลินทรีย์เจริญเติบโต
ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดจะสร้างสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย- พกพาสะดวก สำหรับผู้ที่ต้องเดินทาง
- ป้องกันไม่ให้ยาเสื่อมคุณภาพจากแสงสว่าง
ยาตอกเม็ด (Tablet)
ข้อดี คือ
- ปราศจากวัตถุกันเสีย
เนื่องจากยาที่บรรจุแคปซูล ส่วนของเปลือกแคปซูลทำมาจากเจลาติน
ซึ่งเจลาตินก็ทำมาจากกระดูกหรือหนังสัตว์ จึงเป็นแหล่งอาหารของ
เชื้อจุลินทรีย์ ดังนั้นผู้ผลิตเปลือกแคปซูลจำเป็นต้องใส่วัตถุกันเสีย
และถ้าหากผู้ผลิตเปลือกแคปซูลใช้เจลาตินที่ไม่สะอาด ก็จะต้องใส่
วัตถุกันเสียเกินมาตรฐาน ซึ่งเป็นอันตรายกับผู้บริโภค- ลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อบางชนิด
เนื่องจากเจลาตินทำมาจากกระดูกหรือหนังสัตว์ เช่น วัว หมู
จึงมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อบางชนิด เช่น เชื้อวัวบ้า
และขัดกับหลักของท่านที่รับประทานเจ หรือมังสวิรัติ