การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่า (Artificial Synovial Fluid Injection) หรือ น้ำไขข้อเทียม
ในข้อเข่าปกติ หรือข้อต่อ(Joint) นั้นจะมี น้ำเลี้ยงข้อ หรือ น้ำไขข้อ
เป็นของเหลว มีลักษณะข้นใส และ ลื่น
น้ำไขข้อจะมีส่วนประกอบของน้ำและโปรตีน
มีสารสำคัญ ชื่อ ไฮยาลูโรนิก(Hyaluronic)
ทำให้มีความหนืด ความยืดหยุ่นสูง มีความเหนียว
ในข้อเข่าปกติจะมีน้ำไขข้ออยู่เพียง 3 - 5 ซีซี
ทำหน้าที่ลดแรงกระแทกต่อกระดูกอ่อนผิวข้อ
คล้ายๆ โช้กอัพ และช่วยหล่อลื่น ลดแรงเสียดทานของผิวข้อ
เหมือนกับน้ำมันหล่อลื่น หรือน้ำมันจาระบี ทำให้ข้อเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
นำสารอาหารและออกซิเจน มาเลี้ยงกระดูกอ่อนผิวข้อ และ
นำของเสียจากกระดูกอ่อนออกจากข้อผ่านเข้าไปยังเส้นเลือดและน้ำเหลือง
เมื่ออายุ 40 ปี ขึ้นไปพบว่า น้ำไขข้อจะมีการเปลี่ยนแปลง คือ
ใสขึ้น ปริมาณลดลง(น้ำไขข้อแห้ง) ความหนืด และความยืดหยุ่นลดลง
จึงเริ่มสูญเสียคุณสมบัติในการทำหน้าที่ดูดซับแรงกระแทก และการหล่อลื่น
ทำให้เข่าเสื่อมและมีการอักเสบมาก ปริมาณน้ำในข้อเพิ่มขึ้น แต่เป็นน้ำไขข้อที่ไม่ดี
ไม่สามารถป้องกันการกระแทกและหล่อลื่นผิวข้อได้เหมือนน้ำไขข้อปกติ
จึงทำให้เกิดการทำลายของกระดูกอ่อนผิวข้อมากขึ้น
น้ำไขข้อเทียม มีความหนืด ความยืดหยุ่นใกล้เคียงกับน้ำไขข้อปกติของคนปกติ
ซึ่งนำมาใช้เป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดจากโรคข้อเข่าเสื่อม
โดยจะทำหน้าที่เหมือนกับน้ำไขข้อปกติ ทำให้ข้อเคลื่อนไหวดีขึ้น
การอักเสบลดลง อาการปวดข้อลดลง และ ช่วยชะลอการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมไปอีก 1- 2 ปี
แพทย์ จะฉีด น้ำไขข้อเทียม เข้าไปในข้อเข่า ซึ่งน้ำไขข้อเทียมนี้มีปริมาตร 2 ซีซีต่อเข็ม
ฉีดสัปดาห์ละ 1 เข็ม ติดต่อกัน 3 สัปดาห์ (ห่างกันเข็มละ 1 สัปดาห์)
ถ้าจะฉีดก็ควรฉีดครบทั้ง 3 เข็มติดต่อกัน เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด
ปริมาณยาสูงสุดที่แนะนำก็คือ 6 เข็มภายใน 6 เดือน
โดยเว้นระยะห่างจากการฉีด 3 เข็มแรกอย่างน้อย 1 เดือน
หลังฉีด น้ำไขข้อเทียม ประมาณ 48 ชม. ควรหยุดพักการใช้เข่ารุนแรง เช่น วิ่ง ยกของหนัก
ถ้ารู้สึกว่า ปวดตึงในข้อ ก็อาจรับประทานยาแก้ปวด และ ใช้น้ำเย็นประคบบริเวณปวด
ถ้าอาการไม่ดีขึ้น หรือ มีข้อบวม แดง ร้อน
ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อในข้อเข่า ก็ให้รีบไปพบแพทย์
ผลการรักษา อาจจะแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละคน
ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของข้อเสื่อม ถ้ามีข้อเสื่อมมาก ผลการรักษาก็จะไม่ค่อยดี
จากการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยที่ฉีดน้ำไขข้อเทียมจะมีอาการปวดลดลงและเคลื่อนไหวข้อได้ดีขึ้น
เฉลี่ย 6 เดือน – 1 ปี หลังจากฉีด โดยจะเริ่มรู้สึกดีขึ้น ใน 2 - 3 เดือนหลังฉีด
ดังนั้นในช่วงแรก ถ้ามีอาการปวดมากอาจจะต้องรับประทาน
ยาแก้ปวดลดการอักเสบ ยาคลายกล้ามเนื้อ ร่วมด้วย
น้ำไขข้อเทียม ไม่ได้รักษาข้อเข่าเสื่อมให้หายขาดและ
ไม่สามารถทำให้กระดูกอ่อนผิวข้อที่เสื่อมไปแล้วกลับมาดีเหมือนเดิม
เพียงแต่ช่วยป้องกันกระดูกอ่อนผิวข้อไม่ให้ถูกทำลายมากขึ้น
ชะลอการเสื่อมของข้อ ช่วยบรรเทาอาการปวด ทำให้ข้อเข่าเคลื่อนไหวดีขึ้น
จึงถือว่าน้ำไขข้อเทียมเป็นเพียงทางเลือกในการรักษาข้อเข่าเสื่อมเท่านั้น
แต่เนื่องจากมีราคาค่อนข้างสูง (ประมาณ 15,000-20,000 บาทต่อ 3 เข็ม)
จึงแนะนำให้รับประทานเป็น
กระดูกอ่อนปลาฉลาม ตรา เอ