ยาสมุนไพรแก้โรคเก๊าท์(โรคเกาต์) บำรุงไต เรืองแผนไทยเภสัช
บรรจุแผงละ 30 เม็ด
เม็ดละ 400 มิลลิกรัม
ราคาแผงละ 240 บาทยาเม็ดทุกตำรับ ผ่านการพาสเจอร์ไรส์
และ เครื่องตรวจจับโลหะ
(Pasteurization & Metal Detector Approved)สรรพคุณ แก้โรคเก๊าท์(โรคเกาต์) บำรุงไตให้ดีขึ้น
ทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดกรดยูริค
โดยไม่เป็นอันตรายกับไต เพราะคนที่ใช้ ตรวจค่าไตแล้วดีขึ้น
ซึ่งยาแก้โรคเก๊าท์(โรคเกาต์) บำรุงไต ตำรับนี้
พัฒนามาจากตำรับยาของหมอจีนท่านหนึ่ง
ไม่ได้แก้ปวดในทันที เหมือนยาปัจจุบัน และไม่มียาปัจจุบันมาผสมช่วงที่อากาศหนาวหลายคนอาการเก๊าท์(เกาต์)จะเป็นมาก
เพราะอากาศเย็นจะทำให้ผลึกของกรดยูริคจับตัวกันมาก
ดังนั้นจึงต้องประคบอุ่นบริเวณข้อที่อักเสบ และ
รับประทานยาแก้โรคเกาต์ บำรุงไต เรืองแผนไทยเภสัชผลตอบรับจากท่านที่รับประทาน ยาแก้โรคเกาต์ บำรุงไต เรืองแผนไทยเภสัช
![]()
![]()
![]()
ส่วนประกอบของยาแก้โรคเกาต์ บำรุงไต เรืองแผนไทยเภสัช
จูเหล็ง ซัวเซียม เหี่ยงเซียมคำถามที่พบบ่อย
Q: ยาแก้โรคเกาต์ เรืองแผนไทยเภสัช รับประทานแล้วหายขาดหรือไม่
เพราะรับประทานยาปัจจุบันแล้วก็ยังปวดเป็นระยะ หรือบางรายก็แพ้ยาA: แต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งที่ผ่านมามีหลายราย รับประทานไป
6 แผง(ประมาณ30วัน) แล้วก็เงียบหายไป กระทั่งผ่านไป1ปีเศษๆ
จึงกลับมาสั่งยาใหม่ แล้วเล่าให้ฟังว่าไม่มีอาการปวดเลย จนปีเศษๆถึงมีอาการบางราย รับประทานยาไป 1-2 แผงแรกก็มีอาการปวดมากขึ้น
แล้วโทรมาถามว่าอาการผิดปกติอะไรหรือไม่ แต่เมื่อรับประทานต่อไป
อาการเกาต์ก็ดีขึ้น กระทั่งหายสนิทบางราย รับประทานไป 6 แผง อาการก็ไม่ปวดขึ้นมา ก็โทรมาเล่าให้ฟัง
แล้วก็หยุดรับประทานยาไปเลย จนผ่านไป 2-3 ปี แล้ว ก็ยังไม่ได้สั่งซื้อยาอีกเลยบางราย รับประทานไป 6 แผง อาการก็ดีขึ้น แล้วก็โทรมาสั่งซื้ออีก 6 แผง
รับประทานต่อ จากนั้นก็กลับมาเล่าให้ฟังว่า ทดลองไปกินเป็ด กินไก่ดู
อาการก็ไม่เป็นขึ้นมา จากนั้นก็ยังไม่ได้สั่งซื้อยาอีกเลย ก็มี
โรคเก๊าท์(ที่ถูกต้อง โรคเกาต์) (Gout)
โรคเก๊าท์(โรคเกาต์)เป็นอาการที่เกิดจากภาวะกรดยูริค
ในเลือดมีปริมาณที่สูงเกินกว่าการอยู่ในรูปของสารละลายในเลือดได้
จึงเกิดการตกผลึกสะสมอยู่ในข้อหรือเนื้อเยื่อรอบๆข้อ
โดยเฉพาะในส่วนที่สัมผัสอากาศเย็นกว่าบริเวณอื่น เช่น
ตามข้อ ทำให้ข้ออักเสบ หรือ ตามศอก นิ้ว ติ่งหู ตาตุ่ม หลังเท้า
ทำให้เกิดปุ้มก้อนเกิดขึ้น(tophus)อาการของโรคเก๊าท์(โรคเกาต์)
อาการของโรคเก๊าท์(โรคเกาต์)ที่สำคัญคือ ข้ออักเสบ มักเกิดที่บริเวณนิ้วหัวแม่เท้า, ข้อเท้า เป็นต้น
โดยข้อที่อักเสบ จะบวม แดง ร้อน และปวดมาก ชัดเจน
(ถ้าข้อที่ปวด ไม่บวม แดง ร้อน หรือมีอาการไม่ชัดเจนให้คิดไว้ก่อนว่าไม่ใช่โรคเกาต์)
โดยมากมักเป็นข้อเดียวและมีอาการอักเสบอยู่ประมาณ 5-7 วัน
อาการจะค่อยๆ ทุเลาไปได้เอง จนหายสนิท
ระหว่างที่ไม่มีอาการ จะไม่มีความผิดปกติใดๆ ให้เห็น
แล้วเมื่อข้ออักเสบขึ้นใหม่ จะมีอาการเช่นเดิมอีก
อาการจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งอาการข้ออักเสบจะเป็นมากขึ้น หลายข้อมากขึ้น
เป็นนานและรุนแรงขึ้น รวมทั้งเกิดปุ่มก้อนของยูริค(tophus) สะสมมากขึ้น
ผู้ป่วยระยะนี้มักมีไตวายร่วมด้วย
ถ้าเป็นโรคเกาต์นานๆ จะทำให้ข้อบิดเบี้ยวได้สาเหตุของโรคเก๊าท์(โรคเกาต์)
สาเหตุของโรคเก๊าท์(โรคเกาต์) เกิดจากประสิทธิภาพของไต
ในการขับกรดยูริคออกจากร่างกายไม่ดี
ร่างกายจึงมีการสะสมของกรดยูริค เป็นเวลานาน
โดยเฉลี่ยมากกว่า20ปีขึ้นไป
สำหรับผู้ชาย ระดับกรดยูริคจะสูงตั้งแต่ในช่วงวัยรุ่น
แต่ผู้หญิงด้วยฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศ จะทำให้กรดยูริคไม่สูง
แต่จะสูงเมื่อถึงวัยหมดประจำเดือนแล้ว ระดับกรดยูริคที่สูงจะไม่ทำให้เกิดอาการ
แต่จะสะสมตะกอนไปเรื่อยๆ จนเริ่มมีอาการทางข้อเมื่อกรดยูริคในเลือดสูงเพศชาย ระดับกรดยูริคในเลือดไม่เกิน 7 มิลลิกรัม ในเลือด 100 มิลลิลิตร(1 เดซิลิตร)
เพศหญิง ระดับกรดยูริคในเลือดไม่เกิน 6 มิลลิกรัม ในเลือด 100 มิลลิลิตร(1 เดซิลิตร)การรักษาโรคเก๊าท์(โรคเกาต์)
ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน แบ่งการรักษาโรคเก๊าท์ออกเป็น 2 ช่วง
ช่วงแรกผู้ป่วยโรคเก๊าท์(โรคเกาต์)จะได้ยาลดการอักเสบของข้อก่อน
โดยได้ยา colchicine หรือ ยาแก้ปวด ลดการอักเสบ
หรือใช้ร่วมกัน เพื่อลดอาการปวดข้อและอักเสบ
ยา colchicine โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ ไม่เกินวันละ 4 เม็ด
โดยกินยาทุก 4 ชั่วโมง จนกว่าจะหายปวดในบางประเทศแนะนำให้ผู้ป่วยโรคเก๊าท์(โรคเกาต์)กิน colchicine ทุก 1 ชั่วโมง
จนหายปวดหรือจนเกิดผลข้างเคียง คือท้องเสีย นั้นไม่สมควรอย่างยิ่ง
เพราะข้อที่อักเสบของผู้ป่วยโรคเก๊าท์(โรคเกาต์)ไม่เคยหายอักเสบก่อนเกิดอาการท้องเสีย
ดังนั้นผู้ป่วยโรคเกาต์จะท้องเสียทุกรายและมีความรู้สึกไม่ดีต่อการใช้ยานี้
ถ้าการกินยา colchicine ไม่เกิน 4 เม็ดต่อวัน
จะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้น้อยมากช่วงต่อมาผู้ป่วยโรคเกาต์ จะได้ยาลดกรดยูริค
ในผู้ป่วยโรคเกาต์ ที่มีข้ออักเสบมากกว่า 1 ครั้งควรให้ยาลดกรดยูริค
การกินยาดังกล่าวจำเป็นต้องกินยาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอไปนานหลายปี
ทั้งนี้เพื่อลดระดับกรดยูริคในเลือดลง
ทำให้ตะกอนกรดยูริคที่สะสมอยู่ละลายออกจนหมด
ผู้ป่วยจะสามารถหายจากโรคเกาต์ได้ แต่ข้อควรระวังคือ- ยาลดกรดยูริค มีผลข้างเคียงที่แม้จะพบไม่มากแต่สำคัญ
คือทำให้เกิดผื่นแพ้ยารุนแรง และลอก
การกินยาไม่สม่ำเสมอ กินๆ หยุดๆ เสี่ยงต่อการแพ้ยามาก
ดังนั้นผู้ป่วยโรคเกาต์ ที่ไม่สามารถจะกินยาสม่ำเสมอได้
ไม่แนะนำให้กินยาปัจจุบันแก้เกาต์
- ผู้ป่วยโรคเกาต์ ถูกวินิจฉัยโดยลักษณะอาการทางคลินิค
ไม่ได้อาศัยการเจาะตรวจกรดยูริคในเลือด
ดังนั้นผู้ที่เจาะเลือดแล้วมีกรดยูริคสูง ไม่ได้หมายความว่าเป็นโรคเกาต์เสมอไป
มีผู้เข้าใจผิดอยู่มาก โดยกินยาลดกรดยูริคเมื่อตรวจพบเพียงแต่กรดยูริคในเลือดสูง
แต่ไม่ได้เป็นโรคเกาต์ ซึ่งการกินยาจะเสี่ยงต่อการแพ้ยาได้
(ถ้าไม่มีอาการข้ออักเสบแบบโรคเกาต์ ไม่จำเป็นต้องกินยาลดกรดยูริค)ผู้ป่วยโรคเกาต์ ห้ามนวดตรงข้อโดยเด็ดขาด
เพราะจะทำให้ข้ออักเสบรุนแรงขึ้นการรักษาโรคเก๊าท์(เกาต์)ด้วยยาสมุนไพรบำรุงไต
เนื่องจากกรดยูริคในเลือดที่สูงกว่าร้อยละ 90 เกิดจากร่างกายผลิตเอง
ทางการแพทย์แผนจีน จึงให้ความสำคัญกับไต
ซึ่งทำหน้าที่ขับกรดยูริคออกจากร่างกายดังนั้นความสำคัญของการรักษาโรคเกาต์
จึงอยู่ที่การใช้ยาสมุนไพรบำรุงไตให้แข็งแรง
มีศักยภาพในการขับกรดยูริคและปรับสภาพเลือด
ให้ผลึกของกรดยูริคที่สะสมตามข้อสามารถละลายออกมา
ส่วนผู้ที่ไม่เป็นโรคเกาต์เก๊าท์ แต่ตรวจพบว่ากรดยูริคสูงในเลือดสูง
ก็สามารถรับประทานได้โดยไม่มีอันตรายวิธีรับประทานยาสมุนไพรแก้โรคเกาต์ เรืองแผนไทยเภสัช
รับประทานครั้งละ 3 เม็ด ก่อน 30 นาที วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
หากลืมรับประทานก่อนอาหาร จะมารับประทานหลังอาหารก็ได้
มื้อเย็นไม่ได้รับประทานอาหาร ก็รับประทานยาได้ในช่วงที่รับประทานยาแก้โรคเก๊าท์อยู่นี้ ควรงด เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ห้ามรับประทานหน่อไม้และอาหารรสเค็ม อาหารที่เป็นโปรตีนสูง
ควรรับประทานยาแก้โรคเกาต์ เรืองแผนไทยเภสัชอย่างน้อย 3-6 เดือน แล้วลองหยุดยา
การสั่งซื้อยาแก้โรคเกาต์ บำรุงไต เรืองแผนไทยเภสัช
ขั้นต่ำ 6 แผง คิดเพียงแผงละ 200บ.
เป็นจำนวนเงิน 1,200บ. ส่งฟรี
โอนเงินเข้าธนาคาร ซึ่งเป็นสาขาใน กรุงเทพฯ
แจ้งชื่อ สกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารที่โอน วัน/เวลาโอน
ทางLINE LINE
หรือส่งภาพถ่ายสลิปโอนเงินส่ง EMS ฟรี ได้รับยาหลังโอนเงิน
ประมาณ 1-2 วันทำการ สำหรับในกทม. และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ประมาณ 2-3 วันทำการ สำหรับปริมณฑล และภาคอื่นๆ
ยาเม็ดตอกเม็ดทุกตำรับ บรรจุในแผงอลูมิเนียมฟอยล์ (Strip pack)
ข้อดี คือ
- ป้องกันความชื้นและเชื้อจุลินทรีย์เข้าสู่เม็ดยา
โดยทั่วไปในบรรยากาศจะมีทั้งความชื้นและเชื้อจุลินทรีย์
หากเป็นยาที่ใส่ขวด เมื่อเปิดขวดแล้ว ยาจะมีการปนเปื้อนของเชื้อ
ความชื้นในบรรยากาศ ทำให้เชื้อจุลินทรีย์เจริญเติบโต
ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดจะสร้างสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย- พกพาสะดวก สำหรับผู้ที่ต้องเดินทาง
- ป้องกันไม่ให้ยาเสื่อมคุณภาพจากแสงสว่าง
ยาตอกเม็ด (Tablet)
ข้อดี คือ
- ปราศจากวัตถุกันเสีย
เนื่องจากยาที่บรรจุแคปซูล ส่วนของเปลือกแคปซูลทำมาจากเจลาติน
ซึ่งเจลาตินก็ทำมาจากกระดูกหรือหนังสัตว์ จึงเป็นแหล่งอาหารของ
เชื้อจุลินทรีย์ ดังนั้นผู้ผลิตเปลือกแคปซูลจำเป็นต้องใส่วัตถุกันเสีย
และถ้าหากผู้ผลิตเปลือกแคปซูลใช้เจลาตินที่ไม่สะอาด ก็จะต้องใส่
วัตถุกันเสียเกินมาตรฐาน ซึ่งเป็นอันตรายกับผู้บริโภค- ลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อบางชนิด
เนื่องจากเจลาตินทำมาจากกระดูกหรือหนังสัตว์ เช่น วัว หมู
จึงมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อบางชนิด เช่น เชื้อวัวบ้า
และขัดกับหลักของท่านที่รับประทานเจ หรือมังสวิรัติ